หลังจากสิงคโปร์ได้ก่อสร้างคาสิโนสำเร็จด้วยดีในปีค.ศ. 2010 ที่ผ่านมา ก็ได้ประสบความสำเร็จและรับเสียงชมเชยมากมายจากนานาประเทศ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในคาสิโนเลื่องชื่อของเอเชียที่กำลังตามมาเก๊าไปติด ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าคาสิโนทั้งสองแห่งที่ถูกก่อตั้งโดยรัฐบาลของสิงคโปร์นั้นเคยถูกประชาชนคัดค้านอย่างหนักมาก่อน แต่สิงคโปร์ก็ผ่านจุดนั้นมาได้และสร้างคาสิโนอันเป็นกระแสฮือฮาไปทั่วโลก ประสบความสำเร็จในหลาย ๆ ด้านทั้งที่ขณะก่อสร้างนั้นนอกจากเสียงต่อต้านแล้วยังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจไปด้วย สิงคโปร์ทำได้อย่างไรกันนะ รัฐบาลสิงคโปร์กำลังหวังอะไรจาก คาสิโน เรามาเจาะดูทีละจุดกันเลย
สิงคโปร์ (Singapore) หรือชื่อเป็นทางการว่าสาธารณรัฐสิงโปร์ ได้รับการนับว่าเป็นประเทศเกาะที่เล็กที่สุดในอาเซียนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อดีตเคยถูกยึดครองผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมือไปเรื่อย ๆ ก่อนจะได้รับเอกราชอย่างเป็นทางการในปีค.ศ. 1963 จากนั้นสิงคโปร์ก็พัฒนาประเทศตนเองอย่างรวดเร็วและกลายเป็นประเทศที่มีความเจริญอย่างยิ่งในเอเชีย
ประเทศสิงคโปร์ใช้ระบอบการปกครองแบบสาธารณรัฐระบบรัฐสภา รัฐเดี่ยว และพรรคการเมืองหลายพรรค แต่เพราะเหตุนี้หรืออย่างไรไม่ทราบ สิงคโปร์ก็รุดหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว โดยอาศัยความเป็นเมืองท่า พัฒนาจนเป็นศูนย์กลางพาณิชย์และเศรษฐกิจติดอันดับโลก รวมถึงอันดับหนึ่งในอาเซียน ประเทศสิงคโปร์จะติดอยู่ในดันดับต้น ๆ เสมอหากเป็นในแง่ของการศึกษา สาธารณสุขและเศรษฐกิจ มีภาษาราชการทั้งหมด 4 ภาษา คืออังกฤษ มลายู จีนกลาง และภาษาทมิฬ สกุลเงินเป็นดอลลาร์สิงโปร์
แน่นอนว่าคงไม่มีรัฐบาลประเทศไหนออกปากว่าอยากสร้างคาสิโนแล้วก็สร้างทันที โดยเฉพาะกับระบบสาธารณรัฐของสิงคโปร์ แปลว่าจะต้องมีการวิเคราะห์ปรึกษาและถกเถียงประเด็นนี้มาอย่างถี่ถ้วนแล้วถึงได้อนุมัติกฎหมายและการก่อสร้างคาสิโนขึ้น ถ้าอย่างนั้นมีเหตุผลอะไรบ้าง
ตั้งแต่ช่วงปี 2004 รัฐบาลของสิงคโปร์ได้เล็งเห็นว่าในอนาคตกำลังจะเกิดวิฤตทางเศรษฐกิจขึ้น ซึ่งสิงคโปร์นั้นเป็นประเทศที่จำเป็นต้องให้บริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูกระแสของเศรษฐกิจโลกตลอดเวลา อีกนัยหนึ่งก็คือต้องพึ่งพิงการลงทุนระหว่างประเทศ เพราะประเทศสิงคโปร์ไม่มีทรัพยากรหรืออะไรที่สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนได้เลย
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าสิงคโปร์อยู่ได้ด้วยการลงทุนจากประเทศอื่น ๆ หากเศรษฐกิจย่ำแย่บริษัทต่างชาติพากันปิดตัว ก็จะไม่มีงานรองรับให้คนสิงคโปร์ เมื่อคนสิงคโปร์ตกงานก็จะยิ่งทำเศรษฐกิจภายในประเทศย่ำแย่เข้าไปอีก รัฐบาลก็ไม่สามารถทำอะไรได้ งานที่จะป้อนให้คนเหล่านั้นก็ไม่มี
ก่อนที่จะเปิดคาสิโนนั้นประเทศสิงคโปร์ก็พอจะมีนักท่องเที่ยวอยู่บ้าง แต่รัฐบาลสิงคโปร์ต้องการเพิ่มจำนวนของนักท่องเที่ยวให้มากกว่านั้น และหลากหลายขึ้น อีกทั้งถ้าหากเป็นเหล่านักพนันกระเป๋าหนักก็ยิ่งจะดีมิใช่น้อย
หากเป็นคาสิโนที่ถูกสร้างโดยรัฐบาล นอกจากเงินสำหรับหมุนเวียนแล้วก็สามารถนำกำไรมาบริหารประเทศได้ โดยคาสิโนนั้นจะถือว่าเป็นหนึ่งในธุรกิจของรัฐบาล สามารถนำมาใช้เพื่อพัฒนาประเทศต่อไปได้ และอาจเป็นเงินทุนสำรองในกรณีที่ประเทศอยู่ในภาวะฉุกเฉินได้
ประชาชนชาวสิงคโปร์ถูกจัดอันดับว่าเป็นประเทศที่ผู้คนเกลียดอบายมุขและสิ่งเสพติดอันดับต้น ๆ ของโลก เสียงคัดค้านของประชาชนที่ไม่ต้องการให้มีบ่อนคาสิโนจึงมีจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีคนที่กล่าวว่ารู้สึกตกใจอย่างมากที่จู่ ๆ รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศว่าจะสร้างคาสิโนภายในประเทศ เรียกว่าเป็นข่าวช็อคระดับประเทศกันเลยทีเดียว เกิดการโต้เถียงระหว่างประชาชนด้วยกันและประชาชนกับรัฐบาลในช่วงนั้นกันตลอด รัฐบาลที่วางแผนสร้างมาแล้วจึงต้องลงมาคุยรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ก่อนจะนำมาปรับปรุงเพื่อใช้เป็นกฎในคาสิโน แต่เพราะประชาชนส่วนใหญ่ของสิงคโปร์ได้รับการศึกษาระดับสูงทำให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ไม่มีกระแสคัดค้านหนักมากเกินกว่าการโต้เถียงด้วยเหตุและผล
อีกทั้งยังถูกเรียกว่าเป็นคาสิโนที่มีมูลค่าตั้งแต่ก่อสร้างสูงที่สุดในโลก (กลุ่ม Las Vegas Sands ของอเมริกาเป็นผู้ชนะการประมูล)
ทั้งคาสิโนและกิจการภายในโรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้า การก่อสร้าง และอื่น ๆ อีกกว่าสองหมื่นคน ซึ่งสำหรับประเทศที่มีประชากรห้าล้านกว่าคนถือว่ามากพอแล้ว
คาสิโนแห่งนี้ทำให้ประเทศสิงคโปร์มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ต่อปี และยังมีวี่แววถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศอีกด้วย
ถึงแม้ว่าในช่วงของการก่อสร้างคาสิโนจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในอเมริกาจริง ๆ ตามที่คาดการณ์จนทำให้การก่อสร้างล่าช้าไปบ้าง แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี นอกจากนี้เพราะการลงทุนจากการสร้างคาสิโนทำให้สิงคโปร์ผ่านวิกฤตช่วงนั้นมาได้อย่างง่ายดาย ต่างกับอเมริกาและประเทศแถบยุโรป ประชาชนในประเทศที่เข้าไปเล่นคาสิโนก็น้อยมากเพราะค่าเข้าสูงเกินไป แค่จะเข้าไปเดินชมบรรยากาศข้างในก็เสียเงินแล้ว แถมรัฐบาลก็ยังประชาสัมพันธ์ Marina Bay Sands ด้วยภาพลักษณ์ของโรงแรมและรีสอร์ทมากกว่า เรียกได้ว่าวางแผนมาดีจนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จดังที่คาดหรืออาจมากกว่านั้นด้วยซ้ำ สมเป็นเสือตัวที่สี่แห่งเอเชีย แม้จะพ่ายแพ้มาเก๊าในเรื่องของคาสิโนและการท่องเที่ยวก็ตาม